Wednesday, December 31, 2008

ฟลอร์เฟื่องฟ้า

วันนี้ วันปีใหม่ เลยเอาเพลงฟลอร์เฟื่องฟ้ามาฝาก เป็นเพลงจังหวะแทงโก้ เหมาะกับงานรื่นเริง และขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆ ในวันปีใหม่ :-)

เนื้อเพลง

ครั่นครื้น ดั่งเพลง สวรรค์
วิมานคนธรรพ์หลั่นฟ้ามาใกล้
เทพบุตรนางฟ้า ไทย โอบกอดกันพลิ้วไป
พลิ้วไป พร้อมกับ เสียงเพลง
สุขคร้าน ผ่านฟลอร์ เฟื่องฟ้า
ร้อนแรงลีลาที่ล้าและเร่ง
ปลื้มดื่มด่ำตามเสียง เพลง
สนุกกันครื้น เครง
เพราะรส ประ เลง ปลุก ใจ
โลกถูกเหวี่ยงหวือไปวิมาน
สำเริง สำราญ ผ่านอโศกสถานไกล
เทพบุตรนางฟ้า ไทย
เยื้องกรายเต้นไป ย้ายไป โยกมา
โอ้ทิพย์ สุธา สวรรค์
วิมานคนธรรพ์สุขสันต์เริงร่า
หลับจะอยู่ในนิทรา ตื่นอยู่ในขวัญตา
ฝันฟ้า เฟื่อง ฟลอร์ ไฉ ไล

ครั่นครื้น ดั่งเพลง สวรรค์
วิมานคนธรรพ์หลั่นฟ้ามาใกล้
เทพบุตรนางฟ้า ไทย โอบกอดกันพลิ้วไป
พลิ้วไป พร้อมกับ เสียงเพลง
สุขคร้าน ผ่านฟลอร์ เฟื่องฟ้า
ร้อนแรงลีลาที่ล้าและเร่ง
ปลื้มดื่มด่ำตามเสียง เพลง
สนุกกันครื้น เครง
เพราะรส ประ เลง ปลุก ใจ
โลกถูกเหวี่ยงหวือไปวิมาน
สำเริง สำราญ ผ่านอโศกสถานไกล
เทพบุตรนางฟ้า ไทย
เยื้องกรายเต้นไป ย้ายไป โยกมา
โอ้ทิพย์ สุธา สวรรค์
วิมานคนธรรพ์สุขสันต์เริงร่า
หลับจะอยู่ในนิทรา ตื่นอยู่ในขวัญตา
ฝันฟ้า เฟื่อง ฟลอร์ ไฉ ไล...



ที่มา
  • http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song59.html

Tuesday, December 30, 2008

คิดถึง

มีเพลงหลายเพลงที่กล่าวถึงความคิดถึง แต่เพลงนี้ฟังทีไร ได้ความรู้สึกว่าคิดถึงจริงๆ คิดถึงจนใจจะขาด :-)

เนื้อเพลง
คำร้อง : แก้ว อัจฉริยะกุล
ทำนอง : เอื้อ สุนทรสนาน

คิดถึง ใจจะขาดแล้วเอย
คิดถึงที่เคยได้ชมได้เชยชื่นใจ
คิดถึงรอยยิ้มเพราพริ้มผ่องใส
คิดถึงจนใจจะขาดรอนๆ
คิดถึงแต่ดวงหน้าหวานละมุน
คิดถึงความอุ่นที่เคยได้หนุนตักนอน
คิดถึงแต่เสียงกระซิบออนซอน
คิดถึงจนนอนละเมอทุกวัน

สัมผัสรัดน้อมอ้อมกอด
ชะอ้อนออดนุ่มนวลชวนให้ฝัน
ยังฝังใจชื่นทั้งคืนทั้งวัน
เราเคยรักกันลืมแล้วหรือดวงใจ
คิดถึงใจจะขาดร้าวรอน
คิดถึงความก่อนให้สะท้อนร่ำไป
คิดถึงแต่รสจุมพิตติดใจ
คิดหวนอาลัยไม่รู้ลืม


ที่มา
  • http://www.imeem.com/jitmintra/music/IyLJ9eeq/suntaraporn_brand_collection/

Sunday, December 21, 2008

พรพรหม

วันนี้มาฟังเพลงคู่กันบ้าง เป็นเพลงที่ชอบมากอีกเพลงหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะทำนองเพลงนี้มาจากเพลงไทยเดิม แขกมอญบางขุนพรหม ๒ ชั้น เคยเล่นดนตรีไทยเพลงนี้มาก่อน มาได้มาฟังเพลงนี้ ก็เลยชอบมาก นอกจากทำนองเพลงออกทำนองสนุกสนาน เพราะจังหวะค่อนข้างเร็ว เนื้อร้องก็ยังมีความหมายดี แต่ไม่ค่อยจะมีคนเอามาร้องคู่ซักเท่าไหร่ คงเป็นเพราะว่าเนื้อเพลงยาว จำกันไม่ค่อยจะได้ นอกจากนั้นยังมีร้องล้อกันสลับชายหญิง แถมจังหวะค่อนข้างเร็ว เลยออกจะร้องยากซักหน่อย ไ่ม่เป็นที่นิยม :-)

เนื้อเพลง

ช. รักประคอง น้องนางไม่...ห่าง….เลย ชื่นประทิน รำเพย หอมเอย ผมนางพลางดม
ญ. หอมกลิ่น บุปผาลอยลม ใช่ประทิน กลิ่นผม พี่ขา อย่าดม ผสมไป
ช. แม้ได้ดอม คงหอม ซาบซ่า
ญ. หอมไม่นาน ขี้คร้าน คลาย
ช. น้องอย่าแคลง อย่าแหนง อย่าหน่าย
ญ. ลิ้นผู้ชาย สุดหมายอาลัย
ช. พี่รัก สลักใจ พรหมประทาน มาให้..พี่ก็รัก ดังดวงใจ น้องเอ๋ย จงให้ แอบอิง
ญ. พูดแต่ปาก ยากหลาย มักกลายเป็นลม ..น้อยหรือว่า เป็นเพราะ พระพรหม ฝืนใจข่ม ไม่ท้วงติง
ช. เจ้าอย่า อาลัย พี่น่ะปอง ใจจริง หมายหลัก พักพิง เจ้ารัก พี่จริง หรือไร
ญ. น้องเป็นหญิง พูดจริง รักจริง
ช. ขอเชย ยอดหญิง อย่ากริ่งหัวใจ
ญ. รักอย่า เร่าร้อน จงผ่อนฤทัย
ช. ขอเพียง ลูบไล้ ด้วยใจภักดี
ญ. อย่าเพิ่ง ชม มันจะตรม นะพี่ โปรดถนอม จอมชีวี ถึงวัน เถอะพี่ อย่าอาวรณ์
ช. (ญ.ตาม) คอย
ช. (ญ.ตาม) ชื่นใจ
ช. (ญ.ตาม) พระพรหมท่านให้ เรามา
ช. (ญ.ตาม) บุญ
ช. (ญ.ตาม) ช่วยพา
ช. (ญ.ตาม) สองเราจึงมา รื่นรมณ์
ญ. (ช.ตาม) ยอม
ญ. (ช.ตาม) อดใจ
ญ. (ช.ตาม) ถึงวันคงได้ ชื่นชม
ญ. (ช.ตาม) คง
ญ. (ช.ตาม) ไม่ตรม
ญ. (ช.ตาม) เพราะว่า พระพรหมให้พร
ญ. น้องรู้นะรักเรา จะเศร้าอาวรณ์ น้องกลัว รักมาพาซ่อน พี่ก็ซ้อน ดวงใจภิรมย์
ช. โธ่พุ่มพวง ช่างหวง กระไร เจ้าจะให้ ใครชม ขอพี่ภิรมญ์ ชื่นชมสมใจ
ญ. น้องรักพี่ ศรี..ใจปอง แม้รักน้อง ต้องเหลือ เยื่อใย
ช.ญ. ต่างรู้ ใจกัน รู้ผูกพันกันไป อย่าได้ร้าง จางใจ สมดังที่ได้ พรพรหม
ช. (ญ.ตาม) คอย
ช. (ญ.ตาม) ชื่นใจ
ช. (ญ.ตาม) พระพรหมท่านให้ เรามา
ช. (ญ.ตาม) บุญ
ช. (ญ.ตาม) ช่วยพา
ช. (ญ.ตาม) สองเราจึงมา รื่นรมณ์
ญ. (ช.ตาม) ยอม
ญ. (ช.ตาม) อดใจ
ญ. (ช.ตาม) ถึงวันคงได้ ชื่นชม
ญ. (ช.ตาม) คง
ญ. (ช.ตาม) ไม่ตรม
ญ. (ช.ตาม) เพราะว่าพระพรหม ให้พร
ญ. น้องรู้นะรักเรา จะเศร้าอาวรณ์ น้องกลัว รักมาพาซ่อน พี่ก็ซ้อน ดวงใจภิรมย์
ช. โธ่พุ่มพวง ช่างหวงกระไร เจ้าจะให้ ใครชม ขอพี่ภิรมญ์ ชื่นชมสมใจ
ญ. น้องรักพี่ศรี ใจปอง แม้รักน้อง ต้องเหลือ ..เยื่อใย
ช.ญ. ต่างรู้ใจกัน รู้ผูกพัน กันไป อย่าได้ร้าง จางใจ สมดังที่ได้ พรพรหม....



เพลงแขกบอญบางขุนพรหม

เพลงแขกมอญบางขุนพรหมสองชั้น ทำนองเก่า ที่มีชื่อว่า เพลงมอญตัดแตง ประเภทหน้าทับปรบไก่ มี
๓ ท่อน ท่อน ๑ มี ๔ จังหวะ ท่อนที่ ๒ มี ๔ จังหวะ และท่อน ๓ มี ๖ จังหวะ
นิยมใช้บรรเลงต่อจากเพลงกราวใน ละเพลงพม่าห้าท่อน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิตทรงพระนิพนธ์ขึ้นจากเพลงมอญเก่า
อัตราจังหวะสองชั้นเชื่อเพลงมอญตัดแตง เพลงนี้ทรงนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๓ ที่พระราชวังบ้านปืน
จังหวัดเพชรบุรี นับว่าเป็นเพลงไทยเพลงแรก โดยทรงพระนิพนธ์สำหรับให้วงโยธาวาทิตบรรเลง
ทางร้องทรงให้ นางเจริญ พาทยโกศล ปรับปรุงและให้จางวางทั่ว
พาทยโกศลปรับทำนองเป็นทางสำหรับปี่พาทย์บรรเลง เพลงแขกมอญบางขุนพรหมนี้นับประทานเชื่อว่า
เพลงแขกมอญบางขุนพรหม เพื่อเป็นอนุสรณ์ตามชื่อตำบล และวังที่ประทับของพระองค์ เพลงนี้มี ๓
ท่อน ทรงพระนิพนธ์ตามแบบแผนของเพลงแขกมอญทุกประการ คือ
๑. มีลักษณะเป็นเพลง ๓ ท่อน
๒. ทำนองของเพลงต้องสอดแทรกสำเนียงมอญ
๓. ในจังหวะสุดท้ายของแต่ละคนจะต้องมีทำนองซ้ำกัน



แขกมอญบางขุนพรหม

ท่อน 1






- - - - - - -
- - - - - - - - - - -
ท ร
- - - - - - - - - ล - - -










(กลับต้น)
ท่อน 2




- - - - -
- ฟ ซ
- - - - - ล - - -







(กลับต้น)
ท่อน 3






- - - - - - - - - - - - - -
- - - - - - - - - - -
- - -
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
- - - - - - - - - - ล - - ล -







(กลับต้น)


ที่มา
  • http://www.geocities.com/soho/cafe/2277/0518.htm
  • http://school.obec.go.th/watkhokmue1/wisood.html
  • http://www.htg2.net/index.php?topic=22363.0;prev_next=next

Saturday, December 20, 2008

หงษ์เหิร

เพลงนี้ เมื่อได้ฟัง ทั้งทำนองและเนื้อเพลงช่างเหมาะเจาะเข้ากันได้อย่างดี หลับตาฟังจะสามารถจินตนาการไปตามเนื้อเพลงได้เลยทีเดียว เป็นเพลงที่ไพเราะมากทั้งเนื้อร้องและทำนอง ซึ่งหาได้ยากเต็มทีในเพลงสมัยนี้

เนื้อเพลง

ขับร้อง :
คุณเพ็ญศรี พุ่มชูศรี

หงษ์เหมราชเอย
สง่าผ่าเผยงามสคราญ
ณ แดนหิมพานต์หวงตัวรักวงศ์วาน
หิมพานต์สถานสำราญมา

หงษ์ร่อนผกเผิน
บินดั้นเมฆเหิรเกินปักษา
กางปีกกวักลมท่วงทีสมสง่า
เหินลมล่องฟ้านภาลัย

หงษ์ทรงศักดิ์เรือง
ยามเจ้าย่างเยื้องงามกระไร
สวยงามวิไลสวยเกินนกใดใด
เยื้องไปแห่งไหนสวยสอางค์

หงษ์ลงเล่นธาร
ต้องสระสนานธารสุรางค์
ลงสระอโนดาษชำระร่าง
ไซร้ขนปีกหางสรรพางค์กาย

ทรงหงษ์อ่อนงอน
ปกปิดซ้อนเชยฉอ้อนช้อนโอบกาย
เคล้าคู่กันผันเรียงราย
พร้อมกันว่ายแหวกธาร

ว่ายน้ำฉ่ำกาย
ต่างผันผายพากันว่ายฟ้าเบิกบาน
เหิรสู่แดนแสนสราญ
ถึงหิมพานต์อันสุขใจ


ที่มา
  • http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=nutthed&date=03-11-2007&group=89&gblog=126

Thursday, December 18, 2008

วิมานสีชมพู

เพลงนี้ตอนได้ฟังครั้งแรก รู้สึกว่าหวานเหลือเกิน ทั้งทำนองและเนื้อร้อง ส่วนเสียงร้องไม่ต้องพูดถึง หวานสนิท ฟังแล้วจะรู้สึกเหมือนอมยิ้ม นึกถึงห้องที่เต็มไปด้วยสีชมพู เต็มไปด้วยความรัก ถ้ายังไม่ได้แต่งงาน ฟังแล้วออกจะฝันๆ อยากจะแต่งงาน หุหุ

เนื้อเพลง

เนื้อร้อง : ครูสมศักดิ์ เทพานนท์
ทำนอง : ครูเอื้อ สุนทรสนาน
ขับร้องต้นฉบับ : คุณรวงทอง ทองลั่นธม


.....วิมานนี้....สีชมพู สีแห่งรักงามหรู
ซึ้งอยู่ในความฝัน วางรากศิลารัก
สลักด้วยดวงชีวัน จารึกไว้ร่วม....กัน
ไม่มีวันเสื่อม........คลาย

.....ชื่นใดเล่า เหนือกว่าใจเราเนารักมิวาย
ขอพลีใจและกาย รักเดียวไม่เคลื่อนคลาย
ละลาย กลายสีชมพู

.....วิมานนี้ ฉันปลื้มฤดี
เพราะมีเธอคู่ ถึงเข็ญใจไม่กลายชมพู
เสรีรักอยู่ ชื่นชูใจ...




ที่มา
  • http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kongkea&month=10-2005&date=27&group=5&gblog=10

Wednesday, December 17, 2008

สนต้องลม

ครั้งหนึ่ง เคยเปิดเพลงนี้ ตอนจัดกระจายเสียงในมหาลัยฯ เนื่องจากเพลงนี้ค่อนข้างยาว เปิดเสร็จ ก็ซ้อนจักรยาน ออกไปฟังเพลงข้างนอกห้องจัด ฟังเพลงไป ดูต้นสนสองข้างทางไป ออกจะได้อารมณ์ และที่ชอบอีกอย่างสำหรับเพลงนี้ ก็คงเป็นเสียงอังกะลุง :-)

เนื้อเพลง

ลมพัดโชยพลิ้วมาเยือกเย็นอุราพาให้ชื่น
ลมเย็นระรื่นชุ่มชื่นรื่นฤทัย
ดูสนเป็นแถวทิวแลละลิ่วงามวิไล
ต้องลมพัดไกว กิ่งใบไกวอ่อนโยน

เมื่อสนต้องลมโอนอ่อนระเนน
ทอดนอนไหวเอน แลดูต้นอ่อนโยน
ดูสนฉงนใจเหตุไฉนไยไม่โค่น
ต้องลมพัดโอน อ่อนโยนตามสายลม

ความรักก็เหมือนกันเมื่อแรกนั้นรสหวานชื่น
ทุกค่ำทุกคืนสดชื่นน่าเชยชม
แต่แล้วเมื่อรักจางกลับอ้างว้างใจระทม
ฉันชมแล้วตรมขื่นขมยากเย็น

เมื่อนึกถึงเราแสนเศร้าหัวใจ
รักอยู่ภายในใครเล่าจะแลเห็น
โอ้รักไม่แน่นอนเปลี่ยนเป็นร้อนแล้วก็เย็น
หัวใจไหวเอนดังเช่นสนต้องลม




เล็กๆ น้อยๆ
  • เพลงนี้เป็นเพลงจังหวะวอลทซ์ น่าจะลองเต้นลีลาสด้วยเพลงนี้ดูซักที
  • บันทึกเสียงครั้งแรกโดยมัณฑนา โมรากุล ปี 2492
  • บันทึกเสียงครั้งที่ 2 โดย รวงทอง ทองลั่นธม มีการใช้อังกะลุงบรรเลงในเพลงด้วย
ที่มา
http://www.websuntaraporn.com/suntaraporn/lyric/postlyric.asp?GID=353

ทะเลบ้า

วันนี้ขุดเพลงเก่าๆ มาฟัง มาเจอเพลงนี้ ทำนองมันส์ดี เลยเลือกมาเป็นเพลงแรก


เพลงทะเลบ้า


อัตราสองชั้นของเก่า ประเภทหน้าทับสองไม้ มี 2 ท่อน มีมาตั้นแต่สมัยอยุธยา นิยมนำมารวมไว้ในเพลงเรื่องฉิ่งใหญ่ ในราวรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครูสิน ศิลปบรรเลง (บิดาของหลวงประดิษฐไพเราะ) ได้นำเพลงทะเลบ้าอัตราสองชั้น มาแต่งขยายขึ้นเป็นอัตราสามชั้น และในปี พ.ศ.2491 ท่านครูหลวงประดิษฐไพเราะ ได้ตัดลงเป็นชั้นเดียวครบเป็นเพลงเถา

ต่อมา ครูเอื้อ สุนทรสนาน หัวหน้าวงดนตรีคณะสุนทราภรณ์ ได้นำทำนองเพลงทะเลบ้า สองชั้น มาดัดแปลง แล้วบรรจุคำร้องที
่ครูแก้ว อัจฉริยกุล แต่งไว้ ให้ชื่อว่าเพลงทะเลบ้า เช่นเดียวกัน และเป็นที่นิยมแพร่หลายยิ่งเพลงหนึ่ง



เนื้อเพลง ทะเลบ้า


นั่งคนเดียวพลัดคู่เพ้ออยู่ริมทะเล มองทะเลว้าเหว่ทวี
แต่ได้ยินเสียงซ่านึกว่าดวงฤดี มองก็มีนทีอันกว้างใหญ่
ไม่มีใครอยู่อีกเลยคู่เชยก็ไม่มา แล้วอะไรครืนซ่ามองหาอยู่ไหน
ฟังแล้วยังก้องไป พาดวงใจเวียนวน
อ้อ ทะเลซัดซ่าร้องบ้าไปคนเดียว เออทะเลมิเปลี่ยวใจจน
ทุ่มตัวเองฟาดฝั่งคลุ้มคลั่งในกมล คงจะมีทุกข์ทนและหมองไหม้
ฟาดตัวเองอยู่ทำไม กลุ้มอะไรหนักหนา
หรือทะเลเป็นบ้าผวาหวาดไหว ฟังแล้วยังกลุ้มใจ
พาอาลัยอาวรณ์ เสียงยังดังมา
ทั้งวันเวลาทะเลบ้าแน่นอน รักคงราญรอน
มิเป็นอันนอนเสียงดังไม่หย่อนสักวัน แม้รักเราอับปางคงจือจางร้างรา
ฉันก็คงเป็นบ้าผงาเช่นนั้น คงวิกลเช่นกัน คงจะรำพันจนตาย






โน้ตดนตรีไทย





เพลงทะเลบ้า


ท่อน 1






- - - - - - - - - - - - - -
- - - - - - - - - ด ท - - -
- - - - - - -
- - - - - - - - - - (กลับต้น)



ท่อน 2






- - - - - - - - - - - - - - - - - -
- - - - - - - - - - - -
- - - - - - -
- - - - - - - - - - (กลับต้น)


ถ้าจะย้อนเล่นซ้ำตั้งแต่ต้น ต้องบรรเลงท่อนนี้ก่อน * *- - - - - - - - - -


ที่มา
  • http://www.tlcthai.com/club/view_topic.php?club=MusicThai&club_id=1600&table_id=1&cate_id=1018&post_id=6659
  • http://school.obec.go.th/watkhokmue1/thaimusic/talayba.xls